จากวิกฤตขยะสู่แนวคิด "Zero Waste to Landfill" ในอุตสาหกรรมเวชศาสตร์ความงาม

การขยายตัวของอุตสาหกรรมเวชศาสตร์ความงาม (Aesthetics Beauty Industry) ย่อมมาพร้อมกับปริมาณขยะที่เพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งรวมไปถึงบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้แล้วในคลินิก ขยะเหล่านี้ไม่เพียงสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังต้องการวิธีการจัดการที่ยั่งยืนกว่าการรีไซเคิลทั่วไป

วิกฤตการณ์ที่เกิดพร้อมกัน: เมื่อขยะพลาสติกและขยะอิเล็กทรอนิกส์ล้นโลก

ปัญหาที่แท้จริงไม่ใช่แค่ปริมาณขยะ แต่คือ “การจัดการที่ไม่มีประสิทธิภาพ” ทำให้ขยะที่สามารถรีไซเคิลได้จำนวนมากต้องไปสิ้นสุดที่หลุมฝังกลบ ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างมลพิษต่อดิน น้ำ แต่ยังส่งผลต่อทุกชีวิตบนโลกนี้ ก่อนที่เราจะมองไปที่ขยะในวงการความงาม เราควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาใหญ่สองด้านที่เชื่อมโยงกันก่อน

  • 1. หายนะที่มองไม่เห็นจากพลาสติก (The Plastic Pandemic):
    เราทราบดีว่าพลาสติกเป็นปัญหา แต่ “ความน่ากลัว” ที่แท้จริงอาจมากกว่าที่เราคิด ทุกวันนี้ พลาสติกได้แตกตัวเป็น “ไมโครพลาสติก” ขนาดเล็กจนมองไม่เห็น แต่กลับปนเปื้อนอยู่ในทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นอากาศ น้ำ หรืออาหารที่เราบริโภค มีการศึกษาที่ชี้ว่าเราอาจบริโภคพลาสติกในปริมาณเท่าบัตรเครดิตหนึ่งใบในทุกสัปดาห์โดยไม่รู้ตัว (Source: WWF) โดยเฉพาะขยะพลาสติกจากบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วทิ้ง (Single-use Packaging)
  • 2. สึนามิอิเล็กทรอนิกส์ (The E-waste Tsunami):
    อีกด้านหนึ่งคือขยะอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-waste ซึ่งเป็นซากของผลิตภัณฑ์ที่เคยให้ความสะดวกกับเรา กลับกลายเป็นกองขยะพิษที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ข้อมูลจากสหประชาชาติคาดว่าในปี 2030 โลกจะมี E-waste มากถึง 82 ล้านตันต่อปี ซึ่งเทียบเท่ากับรถบรรทุก 2.05 ล้านคัน หากนำมาจอดต่อกัน จะยาวพอล้อมโลกได้เกือบหนึ่งรอบ (Source: UN Global E-waste Monitor) สิ่งที่น่ากังวลคือ E-waste เหล่านี้มีสารพิษที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งมีชีวิต
จุดบรรจบของวิกฤต: นิยามของ “Aesthetics Waste”

อุตสาหกรรมเวชศาสตร์ความงามเปรียบเหมือน “ภาพสะท้อน” ของวิกฤตทั้งสองนี้ ที่เราสามารถเรียกขยะเหล่านี้ว่า “ขยะจากหัตถการความงาม” (Aesthetics Waste) ซึ่งรวมถึง:

  • บรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์: กล่องกระดาษ, พลาสติกกันกระแทก, ขวด, หลอดครีม ที่ส่วนใหญ่มักเป็นพลาสติกใช้แล้วทิ้ง
  • อุปกรณ์สิ้นเปลืองในคลินิก: บรรจุภัณฑ์ของเข็มฉีดยา, ถุงมือ, สำลี ซึ่งสร้างขยะจำนวนมากในแต่ละวัน
  • ขยะอิเล็กทรอนิกส์ทางการแพทย์: อุปกรณ์และชิ้นส่วนจากเครื่องมือแพทย์ที่มีความซับซ้อนในการจัดการ

เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น แค่หัว Ultherapy Transducer ที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจของเราในประเทศไทยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา สามารถเรียงต่อกันได้สูงเทียบเท่ากับหอไอเฟลถึง 12 หอ นี่คือหลักฐานที่ย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของการจัดการขยะเหล่านี้อย่างมีความรับผิดชอบ

ทางออกที่เป็นสากล: หลักการ “Zero Waste to Landfill”

ท่ามกลางวิกฤตนี้ โลกได้เริ่มให้ความสนใจกับแนวคิด “Zero Waste to Landfill” ซึ่งไม่ได้หมายถึงการไม่สร้างขยะเพียงอย่างเดียว แต่คือการจัดการทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมีเป้าหมายลดขยะที่ส่งไปยังหลุมฝังกลบให้ใกล้เคียงศูนย์ ผ่านกระบวนการต่างๆ ตั้งแต่การลดการใช้ (Reduce), การใช้ซ้ำ (Reuse), การรีไซเคิล (Recycle) ไปจนถึงการแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าใหม่ (Upcycle) ซึ่งหลักการนี้ได้กลายเป็นมาตรฐานที่องค์กรชั้นนำทั่วโลกยึดถือในการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ

ความพยายามสู่ Zero Waste ในไทย

สำหรับประเทศไทย สถานการณ์ Zero Waste ยังคงเผชิญความท้าทาย เนื่องจากการเกิดขยะมูลฝอยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2567 ประเทศไทยมีปริมาณขยะรวมสูงถึง 27.2 ล้านตัน (Source: PCD) ซึ่งหากจัดการไม่ถูกต้อง ก็มักจะจบลงที่การกองอยู่ตามบ่อขยะชั่วคราวหรือรั่วไหลลงทะเล ด้วยเหตุนี้ ภาครัฐและเอกชนจึงให้ความสำคัญกับแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และพยายามผลักดันโมเดลการจัดการขยะที่ลดการพึ่งพาหลุมฝังกลบให้เหลือน้อยที่สุด ซึ่งสอดคล้องกับหลักการ “Zero Waste to Landfill” อย่างชัดเจน ยกตัวอย่าง

  • นโยบายภาครัฐ: มีการบรรจุเป้าหมายสู่สังคมปลอดขยะ (Zero Waste) ไว้ในแผนการปฏิรูปประเทศ ซึ่งเน้นการนำขยะกลับมาใช้ประโยชน์
  • โครงการในกรุงเทพฯ: โครงการ BKK Zero Waste ได้ดำเนินการในพื้นที่นำร่องเพื่อลดปริมาณขยะฝังกลบ และมีเป้าหมายในการลดปริมาณขยะอย่างต่อเนื่อง
  • ภาคเอกชน: องค์กรหลายแห่งก็ได้นำแนวคิด Zero Waste มาบูรณาการกับกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน
  • การมีส่วนร่วมของประชาชน: ประชาชนส่วนใหญ่มีการคัดแยกขยะในครัวเรือน โดยเฉพาะการแยกเศษอาหารเพื่อนำไปทำปุ๋ยหรืออาหารสัตว์

แน่นอนว่าการนำหลักการ “Zero Waste to Landfill” มาปรับใช้ให้เกิดขึ้นจริงนั้นมีความท้าทายอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความร่วมมือในระบบที่ซับซ้อน หรือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้คนในวงกว้าง แต่ถึงอย่างนั้น เมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย เชื่อมั่นว่าการเริ่มต้นลงมือทำในฐานะผู้บุกเบิก คือก้าวที่สำคัญที่สุดในการทำให้วงการเวชศาสตร์ความงามไทยเกิดการเปลี่ยนแปลง เราจึงได้นำหลักการดังกล่าวมาเป็นแนวทางในการออกแบบโครงการของเรา เพื่อเริ่มต้นสร้างมาตรฐานใหม่ที่มีความยั่งยืนในอนาคต

จากหลักการสู่การลงมือทำ: Merz Aesthetics กับโครงการ “Set Zero Aesthetics Waste”

จากความเชื่อที่ว่าความงามที่แท้จริงต้องดีต่อโลกและสอดคล้องกับแนวคิด “Live a Better Look” เพราะการดูแลโลกคือรากฐานสำคัญของคุณภาพชีวิตที่ดี เมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย ได้เริ่มนำหลักการ “Zero Waste to Landfill” มาปรับใช้จริง ผ่านโครงการ “Merz Aesthetics Set Zero Aesthetics Waste”

โครงการนี้นำเสนอโมเดล “เก็บกลับ ปรับโฉม ส่งคืนคุณ” ซึ่งเป็นระบบนิเวศที่ครบวงจรในการจัดการ Aesthetics Waste โดยร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ผู้เชี่ยวชาญ:

  • Recycle Day: ตั้งระบบการ “เก็บกลับ” ขยะรีไซเคิลและบรรจุภัณฑ์จากคลินิกพันธมิตรอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้มั่นใจว่าวัสดุเหล่านี้จะถูกส่งต่อเข้าสู่กระบวนการที่ถูกต้อง ไม่ได้จบลงที่หลุมฝังกลบ
  • Qualy: รับผิดชอบในส่วนของการ “ปรับโฉม” โดยใช้แนวคิดการออกแบบที่ยั่งยืน เปลี่ยนขยะอิเล็กทรอนิกส์ทางการแพทย์ที่จัดการยากอย่าง หัว Ultherapy Transducer ให้กลายเป็นถังอเนกประสงค์ “มานะ” ที่มีดีไซน์และคุณค่าใหม่ แสดงให้เห็นว่าขยะสามารถกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างสรรค์และใช้งานได้จริง
ก้าวต่อไปของความงามที่ยั่งยืน

โครงการ “Set Zero Aesthetics Waste” คือบทพิสูจน์ว่าหลักการ “Zero Waste to Landfill” สามารถนำไปปฏิบัติได้จริงในอุตสาหกรรมเวชศาสตร์ความงาม และยังเป็นมากกว่ากิจกรรมเพื่อสังคม แต่คือการลงทุนเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน เพราะการเลือกเป็นพันธมิตรกับเรา ไม่ใช่แค่การเลือกผลิตภัณฑ์คุณภาพ แต่คือการเลือกร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่วงการและโลกใบนี้ไปพร้อมกัน

ติดตามรายละเอียดโครงการ Merz Aesthetics Set Zero Aesthetics Waste เฟสสอง และอีกหลากหลายมุมมองด้านความยั่งยืนจาก เมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย ได้ที่นี่ เร็วๆ นี้

Tags: ความยั่งยืน (Sustainability), Zero Waste, การจัดการขยะ (Waste Management), เวชศาสตร์ความงาม (Aesthetics), ปัญหาขยะ, คลินิกความงาม, ESG, ธุรกิจเพื่อความยั่งยืน, Merz Aesthetics, Set Zero Aesthetics Waste

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save